Common stockของบริษัทเล็กๆ ก็อาจไม่น่าสนใจสำหรับคนทั่วไป เจ้าของของมันก็อาจจะมีไม่กี่คน เช่น เจ้าของบริษัทหรือผู้บริหารบางคน ซึ่ง Common Stock เหล่านี้จะไม่ได้ถูกซื้อขายในตลาดหุ้น ต่างกับ Common Stock ของบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งจะถูกซื้อขายกันในตลาดหุ้น ซึ่งเราสามารถแบ่งตลาดหุ้นได้ออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ
1. Primary Market หรือ ตลาดหลัก หรือ ตลาดสำหรับ IPO (initial public offering) ซึ่งเป็นตลาดสำหรับบริษัทที่เปิดโอกาสให้สาธารณะชนเข้ามาซื้อหุ้นของตนเป็นครั้งแรก เรียกว่าการทำ IPO (หุ้น IPO เรียกอีกชื่อว่า หุ้นจอง) ซึ่งตลาดนี้เป็นตลาดที่กิจการทั้งหลายใช้ระดมทุนเพื่อขยายกิจการนั่นเอง ตลาดหลักเป็นตลาดที่ทำให้เงินเข้าบริษัทเพื่อนำไปใช้ในกิจการ หลังจากนั้น บริษัทก็จะนำหุ้นของบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดรอง เพื่อให้หุ้นของบริษัทกลายเป็นสินค้าที่สามารถซื้อขายในตลาดรองต่อไปได้
2. Secondary Market หรือ ตลาดรอง (หรือตลาดหุ้น ในภาษาคนทั่วไป) ซึ่งเป็นตลาดที่คนทั่วไปซื้อขายหุ้นกันอยู่ทุกวันนี้ การซื้อขายหุ้นในตลาดรองนี้จะเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนมือไปมาระหว่างนักลงทุนเท่านั้น ไม่ได้มีเงินเข้าบริษัทเพื่อนำไปใช้ในกิจการอีกต่อไป แต่ความสำคัญของตลาดรองก็คือ เป็นตัวที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้น IPO ของบริษัท ถ้าไม่มีตลาดรองหรือตลาดหุ้น ก็อาจไม่มีคนกล้าซื้อหุ้น IPO อีกต่อไป เพราะกลัวจะขายไม่ได้